นโยบายคุุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Personal Data Protection Policy)
โดยทางบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
– ข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ อายุ วันเกิด สัญชาติ รูปภาพ บันทึกวิดีโอ เลขประจําตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง สถานภาพการสมรส ตําแหน่ง ชื่อบริษัท หรือองค์กรที่ทํางาน ทะเบียนรถ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น สมาชิกในครอบครัว หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
– ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพและโรคประจําตัว ข้อมูลสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น
– ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ที่ทํางาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ Social Application เช่นLine ID/Facebook หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถติดต่อได้ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
– ข้อมูลพนักงาน เช่น ตําแหน่ง เงินเดือน หรือค่าตอบแทนอื่น สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน ประวัติการเบิกค่าใช้จ่าย ข้อมูลการเข้าและออกงาน ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน การทํางาน ล่วงเวลา การขาดและลางาน ผลการประเมินการปฏิบัติงานและผลการประเมินอื่นใด ข้อมูลการร้องเรียน การร้องทุกข์ การสอบสวน และการลงโทษทางวินัย
– ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร ประเภทบัญชีธนาคาร ค่าตอบแทน รายละเอียดบัตรเครดิตหรือ บัตรเดบิต ข้อมูลทางภาษี การหักค่าลดหย่อนหรือค่าใช้จ่าย รายละเอียดการทําธุรกรรมกับทางบริษัทฯ
– ข้อมูลด้านความชอบและความสนใจ เช่น กีฬาหรือกิจกรรมที่สนใจ
– ข้อมูลด้านคุณวุฒิ เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติและประสบการณ์การทํางาน ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ผลงาน/รางวัลเกียรติคุณ และข้อมูลอื่น ๆ ด้านคุณวุฒิที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
– ข้อมูลทางด้านความปลอดภัย เช่น บันทึกจากกล้องวงจรปิด หรือข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้เพื่อรักษาความ ปลอดภัยของบริษัทฯ
– ข้อมูลสารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ (Log files) เลขที่อยู่ไอพี (IP Address) คุกกี้ (Cookie) และข้อมูลอื่นๆ ด้านสารสนเทศที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
หากท่านมีความประสงค์ที่จะร่วมทํางาน ร่วมดําเนินกิจกรรม เป็นคู่สัญญา หรือดําเนินการใดๆกับบริษัท บริษัทฯมีความจําเป็นในการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ บริษัทฯอาจไม่สามารถเข้าทําสัญญากับท่าน และดําเนินการใดๆ ตามที่ท่านร้องขอ หรือดําเนินการใดๆ ตามหน้าที่ในสัญญา รวมทั้งไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎหมายที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม
หากว่าท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทฯ ท่านยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวได้พิจารณานโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว และบุคคลดังกล่าวได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตน ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ โดยท่านต้องนําส่งหนังสือยินยอมของบุคคลดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ ตามที่บริษัทฯ อาจร้องขอ
สําหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ จะดําเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กําหนดไว้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ประสงค์ทที่จะให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยติดต่อ บริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดใน ข้อ 13.
– ใบสมัคร แบบตอบรับ แบบฟอร์มลงทะเบียน และ/หรือเอกสารอื่นใด: เช่น ใบสมัครงาน และใบสมัครหรือแบบฟอร์มลงทะเบียนเข้าร่วมหลักสูตร งานอบรม งานสัมมนา หรือกิจกรรมอื่นใด นามบัตร บัตรประจําตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ตลอดจนแบบตอบรับการสนับสนุนแก่บริษัทฯ แบบตอบรับการส่งผู้แทนเข้าร่วมกิจกรรมกับทางบริษัทฯ แบบฟอร์มการสั่งซื้อใดๆ รวมถึงเอกสารอื่นใดที่ท่านได้ส่งมอบให้แก่บริษัทฯ หรือผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน หรือโซเชียลมีเดีย อื่นๆ ของบริษัทฯ
– การติดต่อสื่อสารใดๆ ระหว่างท่านกับบริษัทฯ: เช่น การสนทนาโดยตรง หรือโดยผ่านโทรศัพท์ อีเมล์โทรสาร ไปรษณีย์ หรือแอปพลิเคชันข้อความ เช่น Line/Facebook หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ เป็นต้น รวมถึง การติดต่อผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตใดๆ เช่น เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ เป็นผู้ควบคุม
– การใช้งานเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน: บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน รวมถึงเมื่อท่านใช้บริการ หรือ เข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของบริษัทฯ
– บุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน: บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ประสานงาน เลขา ผู้ติดต่อของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ผู้รับมอบอํานาจ ผู้แทนโดยชอบธรรม สมาชิกในครอบครัว รวมถึงบุคคลอ้างอิง หรือบุคคลที่ร่วมงานกับท่าน
– บุคคล บริษัท หรือหน่วยงานอื่น: เช่น บริษัทที่ได้รับการรับรอง หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ รวมถึงผู้ให้บริการอื่นใดที่ทํางานร่วมกับบริษัทฯ ซึ่งอาจเป็นการติดต่อสอบถามโดยตรง หรือเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รวมถึงหน่วยงานหรือองค์กรอื่น เช่น สมาคมทาฟ่า สมาคมตัวแทนออกของ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร เป็นต้น
– แหล่งข้อมูลสาธารณะ: บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกํากับดูแล หรือเว็บไซต์สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตราบเท่าที่ (ก) พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอนุญาต (ข) ท่านและบริษัทฯ ยังคงมีนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน (ค) บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (ง) ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ หรือ (จ) มีความจําเป็น ภายใต้กรอบของกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
• ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
– เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 เป็นต้น
– เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของศาล
• ฐานสัญญา
– เพื่อดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนเข้าทําสัญญา เช่น ประเมิน พิจารณา และคัดเลือกบุคลากร หรือคู่ค้า ที่บริษัทฯ จะเข้าทําสัญญาด้วย
– เพื่อเข้าทําสัญญา หรือธุรกรรมใดๆ กับท่าน ตลอดจนการปฏิบัติตามข้อสัญญาระหว่างท่านและบริษัทฯหรือตามคำสั่งของท่านตามที่ท่านมีสิทธิในสัญญาดังกล่าว เช่น การติดต่อประสานงาน การมอบหมายหน้าที่ตามสัญญา การจ่ายค่าตอบแทน
– เพื่อการจัดกิจกรรมตามที่เจ้าของข้อมูลแสดงเจตนาในการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ๆ เช่น รับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมการอบรมหลักสูตร สัมมนา การบรรยาย โครงการหรือกิจกรรมอื่นใด ตลอดจนขั้นตอนที่จําเป็นเพื่อการ จัดกิจกรรมดังกล่าว เช่น จัดทําทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม การจัดเตรียมอาหารและที่จอดรถ การจัดทําป้าย ชื่อสําหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม เป็นต้น
– เพื่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมแก่บุคคลภายนอก เช่น ผู้ให้บริการสถานที่จัดงาน ผู้จัดเตรียมอาหาร เพื่อให้บริการแก่สมาชิกผู้เข้าร่วมกิจกรรมสําหรับกิจกรรมนั้นๆ
– เพื่อสรรหากรรมการและสมาชิกของคณะทํางาน สําหรับกิจกรรมที่ทางบริษัทฯ จัดขึ้น โดยได้รับการตอบรับ หรือสมัครใจเข้าร่วมเป็นกรรมการหรือสมาชิกของคณะทํางานในคราวนั้นๆตามวาระปี
• ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
– เพื่อสรรหาบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมงานกับบริษัทฯ
– เพื่อดําเนินการด้านบุคลากร เช่น เพื่อเก็บรักษาและใช้ข้อมูลของท่านในฐานะผู้สมัครงานเพื่อโอกาสในการจ้างงานในอนาคต และเพื่อบริหารจัดการและพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ
– เผยแพร่บันทึกภาพบรรยากาศและบันทึกภาพเคลื่อนไหวของกิจกรรมบริษัทฯ ประกอบการประชาสัมพันธ์ กิจกรรมเป็นการทั่วไป ผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ เป็นผู้ควบคุมโดยที่ไม่ใช่การประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาที่เจาะจงเป้าหมาย (Targeted Advertisement)
– เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะวิทยากร ผู้บรรยาย ผู้เขียนบทความประกอบการ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของบริษัทฯ ผ่านเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ เป็นผู้ ควบคุมรวมถึงการส่งจดหมายข่าวให้กับสมาชิก หรือบุคคลทั่วไป
– เพื่อการยืนยันตัวตนของคู่ค้าก่อนเข้าทําหรือปฏิบัติตามสัญญา
– เพื่อรวบรวมข้อมูลของตัวแทนนิติบุคคล รวมถึงเพื่อติดต่อประสานกับคู่ค้านิติบุคคลผ่านตัวแทนนิติบุคคล เช่นแจ้งการโอนเงิน
– เพื่อการป้องกัน รับมือ และบริหารความเสี่ยง การกํากับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในบริษัทฯ รวมถึง การตรวจสอบภายในของบริษัทฯ และการปรึกษากับที่ปรึกษาด้านกฎหมาย บัญชี ภาษีในประเด็นที่ เกี่ยวข้อง
– เพื่อการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ และทางสารสนเทศ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและอาชญากรรม รวมถึง ใช้เพื่อการสอบสวนการกระทำอันผิดกฎหมาย หรือก่อให้เกิดอันตราย
• ฐานความยินยอม
– เพื่อดําเนินการด้านบุคลากร เช่น เพื่อส่งบุคลากรไปดำรงตําแหน่งหรือกิจกรรมใดกับบุคคลภายนอก เพื่อ รับรองสถานะการเป็นพนักงานกับบุคคลภายนอก เช่น สถาบันการเงิน หรือนายจ้างใหม่ของบุคลากร และเพื่อดูแลหรือดําเนินตามคําขอของท่านหลังพ้นสภาพการเป็นพนักงาน
– เพื่อส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้สนับสนุนของบริษัทฯ เป็นข้อมูลและการเบิกทุนสนับสนุนแก่บริษัท
– เพื่อติดต่อบุคคลอ้างอิงของท่านเพื่อตรวจสอบข้อมูลของท่านก่อนทําสัญญา
– เก็บรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ และเปิดเผยแก่ผู้สนใจเพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อประสานงาน
– เก็บรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลผู้เข้าร่วมหลักสูตร การอบรม สัมมนาหรือกิจกรรมต่างๆ ต่อวิทยากรหรือ ผู้บรรยายสําหรับกิจกรรมนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินกิจกรรม
– เก็บรวบรวมและส่งหรือโอนข้อมูลของผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรการสัมมนาหรือกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนโครงการให้แก่ผู้ให้การสนับสนุนแก่บริษัทฯ เพื่อเป็นข้อมูลผู้เข้าร่วมกิจกรรมและ/หรือ การเบิกทุนสนับสนุน
– เก็บรวบรวมและใช้เพื่อประชาสัมพันธ์ ข่าวสาร การอบรมหลักสูตร การสัมมนาหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสําหรับการวิจัย จัดทําสถิติ เพื่อพัฒนากิจกรรมของบริษัทฯ
– เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น การจัดเก็บข้อมูลสแกนลายนิ้วมือของท่าน เพื่อเป็นข้อมูลการมาทำงาน การจัดเก็บข้อมูลสุขภาพของท่าน เพื่อดําเนินตามคําขอเบิกค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมและจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐาน
– ผู้ให้การสนับสนุนทางด้านข้อมูลแก่บริษัทฯ และผู้ที่สนใจติดต่อบุคคลากรของบริษัทฯ
– องค์กรหรือหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนของบริษัทฯ หรือร่วมงานกับบริษัทฯ เช่น สมาคมทาฟ่า สมาคมตัวแทนออกของ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร เป็นต้น
– องค์กรหรือหน่วยงานที่บริษัทฯ มีการไปบรรยาย สัมมนา หรืออบรม ผู้เข้าร่วมในการอบรม การบรรยาย การสัมมนา หรือกิจกรรมอื่นใดของบริษัทฯ
– บุคคลทั่วไป หรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือสื่อ Social Media และ Social Application
– คณะกรรมการชุดต่างๆ จากภายนอกบริษัทฯ เช่น คณะกรรมการสภาหอการค้าไทย คณะกรรมการทาฟ่า คณะกรรมการกรมศุลกากร เป็นต้น รวมถึงเลขา หรือผู้ประสานงานของบุคคลดังกล่าว
– หน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมสรรพากร กรมศุลกากร เป็นต้น
– สถาบันการเงิน เช่น ธนาคารที่ให้บริการด้านการเงินแก่ท่าน ธนาคารที่ดูแลธุรกรรมทางการเงินให้แก่บริษัทฯ
– บริษัทประกันภัย ผู้จําหน่ายและผู้ให้บริการอื่นๆ ที่มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
– ผู้ให้บริการ ผู้จําหน่าย ผู้จัดหา ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง ที่ทํางานกับบริษัทฯ เพื่อจัดเตรียมและจัดหาบริการและสินค้าหรือบริการให้แก่บริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านเว็บไซต์และ ซอฟต์แวร์ สายการบิน และโรงแรม ตัวแทนการท่องเที่ยว ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุ ผู้ให้บริการด้านการตลาด การวิเคราะห์์ข้อมูลทางการตลาด หรือการค้นคว้าข้อมูลทางการตลาด การทําธุรกรรม การจัดทําเงินเดือน (Payroll) ผู้จัดกิจกรรม การให้บริการด้านสถานที่ อาหารและสินค้า หรือบริการอื่น
– ตัวแทน บริษัทตัวแทน ผู้แทน บริษัทการตลาด บริษัทค้นคว้าทางการตลาด ที่ทํางานให้แก่บริษัทฯ
– ที่ปรึกษาวิชาชีพ เช่น นักบัญชี ทนายความและผู้ให้คําแนะนําด้านกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี และผู้ตรวจสอบภายใน
– บุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ผู้ติดต่อ เลขา ผู้ประสานงาน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว
ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะกํากับดูแลให้การโอนข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไป ตามข้อยกเว้นที่กําหนดใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด
คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าว ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายกับ คอมพิวเตอร์์ของท่าน โดยคุกกี้ (Cookies) นั้นจะได้รับการกําหนดโดยบริษัทฯ และจะสิ้นผลลงภายหลังจากการ เชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของบริษัทฯ การรวบรวมและการสงวนข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ อาจใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น
– เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการ และ/หรือเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ บนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ในการดําเนินการการให้บริการออนไลน์
– เพื่อช่วยให้บริษัทฯ สามารถจดจํา และตอบสนองท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การจดจําชื่อ บัญชีผู้ใช้งาน รหัส หรือการตั้งค่าที่ผ่านมาเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันในครั้งถัดไป และ
– เพื่อวิเคราะห์ ปรับปรุง และพัฒนาการดําเนินงานของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลของท่านเพื่อทําการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน และความถูกต้องของคําขอต่างๆ ของท่านบนเว็บไซต์ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ
ท่านอาจะลบคุกกี้ (Cookies) หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้ (Cookies) นั้นทํางานอีกต่อไปได้ (รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จาก AboutCookies.org) ในกรณีที่ท่านลบคุกกี้ (Cookies) หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้ (Cookies) นั้นทํางานอีกต่อไป ทั้งนี้ การกระทําดังกล่าวอาจทําให้ท่านใช้งานฟังก์ชันบางอย่างหรือทั้งหมดของบริการดังกล่าวได้อย่างไม่ราบรื่น
– สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสําเนา: ท่านมีสิทธิเข้าถึง หรือขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย และขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
– สิทธิในการขอรับและโอนข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทําได้ ทั้งนี้ ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือภายใต้ฐานสัญญา หรือภายใต้หลักเกณฑ์อี่นที่กฎหมายกําหนด
– สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่บริษัทฯ ดําเนินการภายใต้ฐานประโยชน์สาธารณะ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
– สิทธิในการขอให้ลบ: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทําลายข้อมูลของท่าน หรือทําให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนด้วยเหตุบางประการได้
– สิทธิในการขอให้ระงับ: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคําขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีความจําเป็นอีกต่อไป แต่ท่านขอให้บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
– สิทธิในการแก้ไข: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
– สิทธิในการร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนกับคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทฯ หรือ ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
– สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ โดยจะเพิกถอนบางวัตถุประสงค์เท่านั้น หรือจะเพิกถอนทั้งหมดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทฯ กําหนด ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
ท่านอาจใช้สิทธิเหล่านี้ได้โดยการติดต่อกับบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดในข้อ 13.
ในกรณีที่การเพิกถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อท่านในเรื่องใด บริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น โดยหากท่านเพิกถอนความยินยอมในภายหลัง การเพิกถอน ดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ
เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ คํานึงถึงและมุ่งมั่นที่จะดูแลความปลอดภัยและคุ้มครองของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจปฏิเสธคําขอใช้สิทธิของท่านในกรณีที่ (ก) บุคคลที่ยื่นคําขอไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่มีอํานาจในการยื่นคําขอดังกล่าว (ข) คําขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เช่น บุคคลที่ส่งคําขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นอยู่ที่บริษัทฯ (ค) คําขอดังกล่าวเป็นคำขอที่ฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำขอที่มีลักษณะเดียวกันหรือมีเนื้อหาเดียวกันซ้ำๆ โดยไม่มีเหตุอันสมควร (ง) บริษัทฯ มีสิทธิในการปฏิเสธคําขอของท่าน ตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
บริษัท สยาม คาร์โก้ ลอจีสติคส์ จำกัด
ที่อยู่: 522/165 ซอยทรัพย์ธานี ถนนอโศกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์ติดต่อ: (66)2247-0088 เบอร์แฟกซ์ (66) 2246-6460
อีเมล: hr@siamkargo.com
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ถูกทบทวนและให้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565